ไปวิ่งงาน เดิน วิ่ง และปั่น เพื่อโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ ครั้งที่ 2
สำหรับงาน เดิน วิ่ง และปั่น เพื่อโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ ปีนี้นั้น จัดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ปีที่แล้วตอนแรกก็เล็ง ๆ งานนี้ไว้อยู่เหมือนกัน เพราะอยู่ใกล้ที่พัก แต่จนแล้วจดรอดก็ไม่ได้ไป ปีนี้จึงไม่อยากพลาด เนื่องจากเป็นงานการกุศล ปีนี้จัดตรงวันที่ 25 มีนาคม 2561
วัตถุประสงค์ของงานนี้
– เพื่อหารายได้จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
– เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
– เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย
– เพื่อส่งเสริมสุขภาพประชาชนและบุคลากรในโรงพยาบาล
สำหรับงานนี้ค่าสมัครก็ไม่แพงด้วยครับ มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร 350 บาท ซึ่งถือว่าถูกเมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ ที่จัดอยู่ตอนนี้ ผมกับภรรยาเลยสมัครระยะมินิมาราธอนไป แต่งานนี้ไม่มีการส่ง bib ทางไปรษณีย์ จะต้องเดินทางไปรับด้วยตัวเอง ถึงจะพักอยู่แถวลาดกระบัง ยังไม่เคยไปที่นั้นเลย ก็มีทางเดียว taxi เป็นทางเลือก ใช้เวลาจาก Airport Link ลาดกระบังประมาณ 20 นาที เสียค่ารถไป 193 บาทสำหรับ Grap Taxi เราไปรับ Bib กันวันที่ 23 มีนาคม ก่อนวันงาน 2 วัน ก็จะมีคนไปรับติด ๆ กับช่วงที่เราไปอยู่เรื่อย ๆ ส่วนมากเห็นจะเป็นระยะเดิน 4 กิโลเมตรเป็นส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่ก็บริการดีครับ ใช้เวลาไม่นาน
วันวิ่งเราตื่นกันประมาณตี 4 กะว่าจะได้ไม่ต้องรีบมาก และเผื่อเวลาเรียก Grap Taxi ไว้ด้วยก็ไปถึงประมาณ ตี 5 นิด ๆ ซึ่งงานจะปล่อยตัวกันในสวนสาธารณะหนอกจอก ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาล เนื่องจากงานนี้มีทั้งแบบ เดิน-วิ่ง 4 กิโลเมตร, วิ่งมินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร, ปั่นจักรยาน 30 กิโลเมตร และปั่นจักรยาน 53 กิโลเมตร ตอนไปถึงก็เห็นคนไปกันเต็มแล้ว ดูคึกคักดี ถึงแม้จะเป็นงานเล็ก ๆ ถ้าเทียบกับงานที่จัดในกรุงเทพฯ งานอื่น ๆ
ก่อนปล่อยตัวก็จะมีการแสดงจากชมรมผู้สูงอายุมาเต้นยืดเส้นยืดสาย จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการวอร์มอัพ มีน้องคนนึงขึ้นไปเต้นนำบนเวที และทำการเช็คอินนักวิ่งไปพร้อม ๆ กันด้วย โดยจะปล่อยตัวเวลา 05.45 น. เมื่อถึงเวลาก็ปล่อยตัวได้ตามเวลาเป๊ะ (บางงานที่เคยไปมีแบบปล่อยตัวช้า ถือว่าที่นี้ใช้ได้เลย)
เส้นทางการวิ่งเมื่ออกจากสวนก็จะไปตามถนนเชื่อมสัมพันธ์ มีการปิดถนนได้ 2 เลนจราจร ออกไปผ่าน ดรงพยาบาลสัตว์เล็ก ม.มหานคร ผ่านมหาวิทยาลัยมหานคร ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงปิดเทอม แถวนี้เลยไม่ค่อยมีนักศึกษาคึกคักเท่าไร ผ่านบางกอกอารีน่า จากนั้นไปกลับตัวมี 1 จุดเช็คพอยท์ (งานนี้จะมีจุดให้น้ำอยู่ 3 จุด) และวิ่งกลับมาเข้าวนไปที่ บางกอกอารีน่า ซึ่งในนี้ก็จะมีเช็คพอยท์อีก 1 จุดเป็นจุดที่ 2 จากนั้นก็ออกมาเส้นทางเดิมอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งไปถนนร่มไทร ผ่านสถานีตรวจเรดาห์ตรวจอากาศ (หนองจอก) และไปกลับตัวที่จุดเช็คพอยท์ ที่ 3 และวิ่งกลับไปเข้าเส้นชัยที่สวนสาธารณะหนอกจอกตรงจุด Start อีกครั้ง
งานนี้ผมเข้าที่เวลา 1.02 ชม. ส่วนคุณภรรยา เข้าที่เวลา 57 นาที แถมยังเข้าเป็นอันดับ 1 ของรุ่นอายุ 30-39 หญิง อีกด้วย ได้ถ้วยอีกแล้วว (เธอเคยได้อันดับ 5 ระยะฮาล์ฟมาราธอน เมื่อปลายปี 2560 มาแล้วที่สุราษฎร์ธานี) เหรียญก็ทำดูดีครับด้านหน้าเป็นโลโก้งาน ส่วนด้านหลังก็เป็นตราประจำของโรงพยาบาล
งานนี้ถึงเป็นงานเล็ก แต่เจ้าหน้าที่ทุกท่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร และเอาใจใส่นักวิ่งเป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง ได้บุญแถมได้ออกกำลังกาย ปีหน้าหากจัดอีกผมก็คงไม่พลาดที่จะมาอีกครั้ง
