1st Full Marathon Phukethon 2019

Phukethon 2019 ปีนี้ตรงกับวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเริ่มวิ่งแบบจริงจังมาเกือบ 3 ปีแล้ว ลงแข่งทั้งระยะ Funrun / Mini / Half มาหมดแล้ว แต่ยังไม่กล้ากับระยะ Full

ที่ตัดสินใจสมัคร Full สนามนี้เพราะคิดว่าไม่ไกลจากกระบี่มาก เดินทางโดยรถตู้ได้ ไม่ต้องเปลืองค่าตั๋วเครื่องบิน เรากดสมัครไว้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดรับสมัครช่วงเดือน มี.ค.62 (Super Early 750 บาทต่อคน) ตอนนั้นคิดว่าวิ่งได้อยู่แล้วเหลือเวลาซ้อมตั้ง 8 เดือน

credit ภาพจาก https://www.runlah.com/events/pkt19

แต่เอาจริงได้ซ้อมในระยะที่มากกว่า 21km. แค่ 2 เดือนก่อนงานวิ่งเอง และซ้อมได้มากที่สุดคือ 30km. เรียกได้ว่าเป็นความประมาทล้วน ๆ

เท่าที่รู้มาสนามนี้ถือว่าโหดใช้ได้ มีเนินเยอะและสูงพอสมควร ใจก็คิดนะเทดีไหมหว่า แต่ก็เสียดาย ไปก็ไป เต็มที่ก็แค่เดินไม่ให้โดน Sweeper กวาดขึ้นรถจนกลายเป็น DNF ตั้งแต่สนามฟูลแรก แบบนั้นคงหมดกำลังใจในการวิ่งระยะนี้ไปอีกนาน เสื้อวิ่งงานนี้ใส่สบายมากไม่ร้อน เสื้อ Finisher ก็สวย ผ้านิ่ม น่าจะใส่สบายไม่ร้อน

credit ภาพจาก https://www.runlah.com/events/pkt19

credit ภาพจาก https://www.runlah.com/events/pkt19

กำหนดการปล่อยตัว 03.00 น. โดยปล่อยตัวนักวิ่งอีลิทไปก่อน จากนั้นจึงปล่อยตัวนักวิ่งระยะฟูล 03.05 น.

credit ภาพจาก https://www.runlah.com/events/pkt19

เราวิ่งออกตัวไปพร้อมกันกับแฟน วิ่งตามเวลาที่เคยซ้อมมา ความเร็วอยู่ที่ pace 6 นิด ๆ จากนั้นก็แยกกับแฟนกิโลที่ 4 เพราะแฟนแวะจิบน้ำ ส่วนเราวิ่งต่อเรื่อย ๆ ไปแวะจิบน้ำจุดแรกกิโลที่ 12 และแวะอีกทุก ๆ 2 หรือ 4 กิโล การวิ่งยังรักษาระยะได้เรื่อย ๆ ความเร็วที่ pace 6 จนถึงกิโลที่ 21

รู้สึกพอใจกับเวลาในช่วงครึ่งแรกนี้มาก เพราะยังไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่ตลอดเส้นทางจะเป็นทางเรียบสลับมีเนินซึมยาว ๆ เนินสูงเล็กน้อยแต่ก็ยังทำเวลาได้ตามเป้าหมาย จุดเริ่มต้นของความพัง (ปวดร้าว) !!!  เริ่มเข้าสู่กิโลที่ 22 แอดเงยหน้าขึ้นเจอเนินสูงมาก ถามนักวิ่งข้าง ๆ ว่าใช่ “แหลมพรหมเทพ” ไหม คำตอบคือ ใช่

ป๊าดดดทำไมเนินยาวจัง ดูเหมือนจะสูงชันขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เอาไงล่ะ เดินแล้วกันเนอะ (แอบคิดถึงเขาธง ที่นครศรีธรรมราชเลยอ่ะ) ใครชอบความท้าทายต้องมาลองจ๊ะ

ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินขึ้น แล้วค่อยวิ่งลง แต่ ๆ ๆ ฝนเทลงมาจ้า ต้องเปลี่ยนมาวิ่งเบา ๆ สลับเดินลงแทน กลัวลื่นล้มเดี๋ยวจะกล้าเป็นลูกขนุนกลิ้งลงเนินซะเปล่า ๆ ความเร็วตกไปที่ 8-9 ทันที

หลังจากนั้นก็ไม่ได้วิ่งแบบสวย ๆ สบาย ๆ เลย ฝนยังคงตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง (เรียกว่ากิโลที่ 24-30 วิ่งผ่าสายฝนที่หนักหน่วงมาก) ลมพัดแรงไปอีก ยิ่งช่วงไหนเป็นเนินแล้วน้ำไหลลงมามาก ๆ เหมือนวิ่งในน้ำ เย็นชุ่มฉ่ำจนน้ำตาจิไหล

สายฝนยังคงตกโปรยปรายตลอดเส้นทางช่วงหลัง แม้ว่าแอดจะกลับมาวิ่งที่ pace 6 สลับ 7 ได้แล้ว แต่ก็เหมือนเสียเวลาที่แหลมพรหมเทพไปนานเกินไป จนอาจจะไม่จบมาราธอนแรกได้ก่อน 5ชม.

ขาก็สับไปเรื่อย ๆ สักพักได้ยินเสียง pacer ไล่ตามหลังมา หันไปดู .. อ้าวเฮ้ย 5 ชม. ตามมาทันแล้วเหรอ ไม่ได้นะเราต้องเข้าเส้นชัยก่อน 5 ชม. pacer จะจี้ตามก้นมาแบบนี้ไม่ได้

และผลจากการวิ่งลุยฝนมาอย่างหนักหน่วง เท้าก็เริ่มเปื่อยแล้วอ่ะ เจ็บนิ้วนิด ๆ แต่ใจสู้ ขาสู้อยู่ ได้ยินเสียงน้อง ๆ ทีมงานบอกสู้ ๆ นะคะ

Credir ตากล้อง KAEW Photographer จาก thai.run

จุดไหนมีแตงโมก็จัดไป 1 ชิ้น จุดไหนมีเจลก็จัดไป 1 ซอง จุดน้ำดื่มก็เอามาล้างหน้า ราดตัวให้ชุ่มชื้นเพิ่มพลังให้ตัวเอง
** ข้อดีของฝนตกคือทำให้อากาศไม่ร้อน วิ่งแล้วไม่เหนื่อยมาก สามารถวิ่งได้เรื่อย ๆ ถ้าให้เลือกระหว่างแดดออก กับ ฝนตก แอดเลือกฝนตกนะ (แต่ไม่จำเป็นต้องตกแรงขนาดนี้ก็ได้มั้ง)

จนผ่านพ้นกิโลที่ 40 ใช้เวลาไปแล้ว 4:45 ชม. เหลือระยะทางอีก 2 กิโลนิด ๆ คิดแล้วว่าน่าจะเข้าเส้นชัยได้ก่อน 5 ชม. ตามที่ตั้งเป้าไว้ถ้าไม่หกล้มไปซะก่อนนะ

credit ภาพจาก thai.run ตากล้อง 1 Photo Image

โชคดีที่ยังมีแรงสปีดช่วง 2 กิโลสุดท้าย น่าจะเป็นเพราะวิ่งมาตามความเร็วที่เคยซ้อม ไม่มีช่วงที่เร่งตัวเองเกินไป ทำให้มีแรงเหลือพอที่จะสปีดเข้าเส้นชัย และสุดท้ายเราก็สามารถจบสนามนี้มาด้วยเวลา 4:57:16 ชม. เป็นลำดับที่ 18 / 110 ของกลุ่มอายุ (ผลงานได้ตามเป้าหมาย)

ติด TOP100 (ลำดับที่ 40 / 250 ของผู้หญิงทั้งหมด ได้น้องไข่นุ้ยมานอนกอด และลำดับที่ 442 / 1,397 ในระยะฟูล

ส่วนแฟนเข้ามาด้วยเวลา 5:22:46 ชม. แม้จะไม่บรรลุเป้าหมาย 5 ชม. แต่ไม่เป็นไรเนอะ ต้องยอมรับว่าทำงานหนักไปหน่อย ซ้อมน้อย แถมงานนี้เนินเยอะมาก ๆ เข้าเส้นชัยมาด้วยเวลาเท่านี้กับมาราธอนสนามแรกก็สุดยอดแล้ว

ทิ้งท้ายนิดหน่อย

• ขั้นตอนการรับเสื้อ + Bib รวดเร็วมากไม่ต้องรอนาน
• ปล่อยตัวตรงเวลาดี สนามกว้างวิ่งง่าย ไม่เร่งรีบจนเบียดกันเหมือนการวิ่งในระยะอื่น ๆ
• จุดน้ำเย็น เกลือแร่ ผลไม้ เจล มีให้พร้อมตามที่แจ้งทุกจุด
• จุดพยาบาล สเปรย์ มีเป็นระยะ ๆ ตลอดทาง
• ห้องน้ำมีให้เห็นตามทางเป็นระยะ ๆ
• ป้ายบอกระยะมีทุกกิโล
• งานนี้ช่างภาพเยอะมาก บางจุดช่างภาพเยอะ กดถ่ายรัว ๆ จนแอดนึกว่าตัวเองเป็นดารา ^_^
• เสียดายแก้วน้ำมีทั้งกระดาษ และ พลาสติก เป็นกระดาษทั้งหมดคงดี
• เสียดายถังขยะระหว่างทางเพื่อทิ้งแก้วน้ำไม่พร้อมเลย สงสารทีมงานที่ต้องค่อยเก็บ เหนื่อยแน่ ๆ
• เสียดายข้าวหลังเข้าเส้นชัยเหลือน้อยจนเกือบไม่ได้กิน
• เสียดายขึ้นแหลมพรหมเทพฟ้ายังมืดอยู่ แถมฝนตกอีก เลยอดได้ภาพสวย ๆ

** ส่วนคอมเม้นท์ของนักวิ่งระยะอื่น ๆ ขอไม่พูดถึง เพราะแอดวิ่งในระยะฟูล ทิ้งท้ายไว้ตามที่แอดรับรู้และได้สัมผัสจ๊ะ **

สนามนี้จบเวลาไม่สวยเท่าไหร่ แต่จบแบบไม่เจ็บก็โอเคแล้ว และหวังว่าจะมีมาราธอนที่ 2 3 4 อีกนะ ตอนนี้ขอกลับไปซ้อมให้พร้อมกว่านี้อีกนิด

ลืมไปเลย อีกนิดนึงน๊า ????

การเดินทางไปแข่งสนามนี้เราใช้การเดินทางโดยรถตู้ขึ้นรถที่ บขส.กระบี่ ค่าโดยสารคนละ 140 บาท ไปลงที่ บขส.เก่าภูเก็ต ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. จากนั้นก็เดินเท้าไปห้องพักห่างจากบขส.เก่าประมาณ 1 กิโลเท่านั้น แอดเข้าไปพักที่ Sleep At Phuket โดยจองห้องพักผ่าน Agoda ตั้งแต่วันที่กดสมัคร

โดยศึกษาเส้นทางแล้วว่าที่พักไม่ห่างจากจุดปล่อยตัวมาก ระยะทางประมาณ 2.7 กิโล ซึ่งปล่อยตัว 03.00 น. หากเดิน ๆ สลับวิ่งไปสนามแข่งก็ไม่นาน ถือว่าเป็นการวอร์มอัพก่อนวิ่ง

ราคาห้องพัก 520 บาท เป็นห้องแอร์ ขนาดห้องไม่กว้างมาก ในห้องพักมีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น ทีวี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วกับการพักแค่คืนเดียว แอดไม่ซีเรียสอยู่แล้วขอให้มีแอร์ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่พร้อมวิ่งในเช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นพอ ระหว่างทางที่เดินไปรับเสื้อ + Bib ก็แวะถ่ายรูป หาของอร่อย ๆ กินไปพลาง ๆ

แถมก่อนเข้าไปถึงจุดรับเสื้อ + Bib มีการจัดงานวันลอยกระทงอีก ใครไม่กลัวเหนื่อยก็แวะเดินเที่ยวได้ แต่แอดขอเก็บแรงไว้เดินวันแข่งน๊า

Credit : ตากล้อง 89photorun จาก thai.run

ขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอเป็นกำลังให้กับหลาย ๆ คนที่อยากจะเริ่มออกกำลังกาย ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขอแค่ตั้งใจ และลงมือทำ !